ปัญญาพิจารณาให้เห็นที่เกิดของสังขารและที่ดับของสังขาร 30-11-2567

00:38:31
https://www.youtube.com/watch?v=S6jQjJpviLI

Ringkasan

TLDRหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ จากวัดเวลว ตำบลท่าขนุน แสดงธรรมเน้นความสำคัญของการปฏิบัติธรรมเพื่อหลุดพ้นจากสังสารวัฏ โดยใช้กระบวนการสังเกตและพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ตามหลักไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตัวท่านสอนให้มีสติและปัญญาเป็นที่พึ่งในการดูแลจิต รักษาให้จิตนิ่ง และให้ปล่อยวางไม่ยึดติดกับอารมณ์ต่าง ๆ รวมถึงการทำสมาธิอย่างมีสติ ไม่กลัวการไม่มีลมหายใจขณะทำสมาธิ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพัฒนาจิต หลวงปู่ฝากให้เข้าใจว่าการฝึกสติ สมาธิ และปัญญา จะนำพาไปสู่การเห็นสภาวะธรรมและเข้าถึงอริยมรรค ทางที่หลุดพ้นได้

Takeaways

  • 🧘‍♂️ การฝึกจิตให้มีสติและสมาธิ
  • 🤔 ความสำคัญของการพิจารณาสังขาร
  • 🔄 วิธีการปล่อยวางทิฐิมานะ
  • 🕊️ การหลุดจากบ่วงสังสารวัฏ
  • 🌬️ สมาธิและการไม่มีลมหายใจ
  • 🛡️ การเห็นความไม่แน่นอนของสิ่งต่าง ๆ
  • 🤝 การใช้สติปัญญาร่วมกับสมาธิ
  • 🎯 การตั้งใจและไม่ท้อถอยในการปฏิบัติ
  • 📖 การศึกษาธรรมะอย่างเข้าใจถ่องแท้
  • 🌌 เห็นความเป็นอนิจจังและอนัตตา

Garis waktu

  • 00:00:00 - 00:05:00

    เนื้อหาพูดถึงการหลุดพ้นจากสังสารวัฏ โดยฝึกจิตให้เห็นและรู้เท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ให้ความสำคัญกับมันจนกลายเป็นตัวตน และใช้การบริกรรมภาวนาเสริมสร้างจิตที่ละเอียดขึ้น

  • 00:05:00 - 00:10:00

    กล่าวถึงอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติสมาธิ และการใช้ปัญญาในการเฝ้าสังเกตลมหายใจที่ละเอียดขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงความกลัวตาย โดยเน้นการมีสติปัญญาพร้อมในการเผชิญหน้ากับความตาย

  • 00:10:00 - 00:15:00

    เสนอเปรียบเทียบกับนิทานช้างที่เกี่ยวกับการมองไม่เห็นภาพรวมของธรรมะ เสนอให้มองเห็นทุกอย่างตามหลักไตรลักษณ์และอริยสัจ เพื่อให้เข้าใจการเกิดดับของสิ่งต่างๆรอบตัว

  • 00:15:00 - 00:20:00

    พูดถึงความเป็นปกติที่ต้องยอมรับว่าร่างกายจะเสื่อมไปตามธรรมชาติ และการตระหนักถึงธรรมะเพื่อหลุดพ้นจากทิฐิมานะและกิเลส ก่อให้เกิดความสุขที่แท้จริง

  • 00:20:00 - 00:25:00

    แนะแนวแนวทางการปฏิบัติและศึกษาธรรมะให้ถ่องแท้ โดยไม่จำกัดตัวเองและเปิดรับความรู้จากทั้งภายในและภายนอก อันนำมาซึ่งความเข้าใจที่ถูกต้อง

  • 00:25:00 - 00:30:00

    ย้ำถึงความสำคัญในการมีสติและปัญญาในทุกอริยบท เน้นการรักษาความเพียรในการปฏิบัติ ไม่หาข้ออ้างเพื่อลดการทำความเพียรที่อาจนำไปสู่ความเสื่อม

  • 00:30:00 - 00:38:31

    สรุปถึงการปฏิบัติที่ถูกต้อง ต้องมีความเด็ดขาดและรักษาความรู้เท่าทันในสิ่งต่างๆ โดยยกตัวอย่างให้เห็นภาพการหลุดพ้นจากบ่วงแห่งทิฐิและกิเลส โดยย้ำว่าการมีสติเพียงพอจะทำให้เข้าใจความจริงของชีวิต

Tampilkan lebih banyak

Peta Pikiran

Video Tanya Jawab

  • หลักการพื้นฐานในการปฏิบัติธรรมคืออะไร?

    การฝึกจิตเพื่อให้มีสติ สมาธิ และปัญญาในการรับรู้และปล่อยความเกิดขึ้นของอารมณ์ต่าง ๆ ตามหลักไตรลักษณ์

  • ต้องทำอย่างไรเพื่อจะเห็นว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา?

    ต้องพิจารณาและสังเกตเห็นความไม่แน่นอนของสังขารและอารมณ์ต่าง ๆ ว่ามันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป

  • ทำไมความสำคัญของการปล่อยวางจึงสำคัญในการปฏิบัติธรรม?

    เพราะการไม่ยึดติดกับสิ่งใด ๆ จะช่วยลดทุกข์และทำให้จิตมีอิสรภาพในการรับรู้ธรรมะ

  • การปฏิบัติสมาธิควรทำอย่างไรเพื่อไม่ให้กลัวตาย?

    ควรฝึกจิตให้คุ้นเคยกับสมาธิและการไม่มีลมหายใจ โดยไม่ต้องกลัวการตาย เนื่องจากเป็นภาวะธรรมดาที่เกิดจากการฝึกสมาธิ

  • การใช้ไตรลักษณ์ในการพิจารณาสิ่งต่าง ๆ มีความสำคัญอย่างไร?

    การใช้ไตรลักษณ์ช่วยให้เราเห็นความไม่คงทนของสังขาร จึงลดการยึดมั่นและพ้นจากกิเลสและทุกข์

  • ธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าควรศึกษาอย่างไร?

    ควรศึกษาให้เข้าใจถ่องแท้และนำไปปฏิบัติได้จริง เพื่อการหลุดพ้นจากกิเลส

  • เราควรเข้าใจเรื่องความตายอย่างไรในทางธรรม?

    ควรเห็นว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่ภาวะที่ต้องกลัว แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ทุกคนต้องเจอ

  • การทำภาวนาช่วยอะไรในการแก้ปัญหาใจ?

    ช่วยให้จิตใจมีความสุข สว่าง และพ้นจากกิเลสต่าง ๆ ที่มาหุ้มห่อใจ

  • การมีสติและปัญญามีบทบาทอย่างไรในการปฏิบัติธรรม?

    มีบทบาทสำคัญในการรับรู้และเข้าใจธรรมะ สามารถช่วยให้เราพ้นจากความทุกข์และการยึดติดในอารมณ์

  • เหตุใดการพยายามอย่างสม่ำเสมอและไม่ยอมแพ้จึงสำคัญในการปฏิบัติธรรม?

    เพราะการที่เรามีความพากเพียรและความมุ่งมั่นจะนำไปสู่ความสำเร็จในทางธรรมะ และหลุดพ้นจากสังสารวัฏ

Lihat lebih banyak ringkasan video

Dapatkan akses instan ke ringkasan video YouTube gratis yang didukung oleh AI!
Teks
th
Gulir Otomatis:
  • 00:00:02
    ธัมมาวุโธว่าาหลวงปู่สาครธัมมาวุโธวัด
  • 00:00:07
    เวลวตำบลท่าขนุนอำเภอ
  • 00:00:12
    ทองผาภูมิจังหวัด
  • 00:00:14
    กาญจนบุรีแสดงธรรมเมื่อวันที่ 30
  • 00:00:18
    พฤศจิกายน
  • 00:00:23
    2567 เราจะต้องกลับหลังมือเป็นหน้ามือ
  • 00:00:27
    กลับหน้ามือเป็นหลังมือมันถึงจะออกจาก
  • 00:00:30
    สังสารวัฏของทิฐิมานะอาสวกิเลส
  • 00:00:33
    ได้จิตใจของเราจะต้องเด็ดขาดถ้าอะไรจะ
  • 00:00:38
    เกิดก็ต้องให้มันเกิดอะไรจะตั้งอยู่ก็ให้
  • 00:00:41
    มันตั้งอยู่อะไรจะดับไปก็ให้มันดับไปเรา
  • 00:00:46
    เป็นผู้เห็นเราเป็นผู้รู้เท่า
  • 00:00:51
    [เพลง]
  • 00:00:57
    นั้นอะไรเกิดขึ้นมาก็ให้เราสังเกต
  • 00:01:02
    ดูเห็นที่เกิดเห็นที่
  • 00:01:06
    ดับที่เรียกว่าปัญญาพิจารณาเห็น
  • 00:01:11
    สังขารปัญญาพิจารณาเห็นสังขารเป็นสิ่งที่
  • 00:01:15
    น่า
  • 00:01:16
    กลัวในปัญญาเห็นพิจารณาเห็นที่เกิดของ
  • 00:01:21
    สังขารและที่ดับของ
  • 00:01:24
    สังขารมันเกิดขึ้นมาจากสังขารทั้งหมดแล้ว
  • 00:01:28
    มันก็ดับลงไปที่ใจของเราทั้งหมดเกิดขึ้น
  • 00:01:32
    มาก็เกิดมาที่ใจแล้วดับไปที่ใจความรู้น่ะ
  • 00:01:36
    เป็นเราความรู้ว่ามันเกิดแล้วมันตั้งอยู่
  • 00:01:40
    แล้วมันดับ
  • 00:01:42
    ไปที่เราเห็นว่ามันดับ
  • 00:01:44
    ไปนั่นน่ะคือตัวของเราที่เป็นผู้รู้ว่า
  • 00:01:48
    มันดับแต่เราไม่ได้เป็นตัวเกิดและไม่ได้
  • 00:01:51
    เป็นตัว
  • 00:01:52
    ดับเราเป็นแค่ผู้รู้แค่นั้นพยายามเฝ้า
  • 00:01:58
    สังเกตตัวเองไปอะไรเกิดขึ้นมาก็ปล่อยมัน
  • 00:02:02
    ไปอะไรเกิดขึ้นมาเราก็ปล่อยไปอะไรเกิด
  • 00:02:06
    ขึ้นมาเราก็ปล่อยมันไปอย่าไปสนใจมันถ้า
  • 00:02:10
    เราไม่ให้ความสำคัญกับมันมันก็ไม่หนักที่
  • 00:02:13
    ตัวของ
  • 00:02:15
    เราถ้าเราไปให้ความสำคัญกับมันปุ๊บนี่
  • 00:02:18
    หนักทันทีแล้วก็หลงทันทีถ้าเราไม่ให้ความ
  • 00:02:24
    สำคัญแล้วจะไม่
  • 00:02:26
    หลงก็เหมือนกับไอ้
  • 00:02:30
    หมอทำฝ่ามือให้ดูหลังมือกับฝ่ามือแค่พลิก
  • 00:02:35
    แค่
  • 00:02:37
    นี้ชั่วขณะจิต
  • 00:02:41
    หนึ่งเราสามารถที่จะทำลายอาสวะกิเลสได้
  • 00:02:45
    ทั้งหมดในชั่วขณะจิตเดียว
  • 00:02:50
    ในจิตมันได้กำลังเต็ม
  • 00:02:55
    ที่ในระหว่างที่เราบริกรรมภาวนาหรือเรา
  • 00:02:59
    เห็นลมหายใจใจที่มันละเอียดขึ้นละเอียด
  • 00:03:01
    ขึ้นมันไม่มีลมหายใจเราอย่าไปตกใจไอการ
  • 00:03:08
    ที่ดูลมหายใจจะมีข้อเสียอยู่ที่ดูลมหายใจ
  • 00:03:11
    ไปแล้วพอมันไม่มีลมหายใจมันจะตก
  • 00:03:16
    ใจกลัว
  • 00:03:19
    ตายมันจะกลัวตายแต่เวลาเรานอน
  • 00:03:25
    หลับมันมีลมหายใจอยู่ไหม
  • 00:03:29
    อันนี้มันเกิดขึ้นจากการทำสมาธิภาวนาของ
  • 00:03:32
    เราต่างหากแล้วเราไปกลัวตายได้ยังไงแล้ว
  • 00:03:36
    เวลานอนหลับมาขี่ฟ้ากี่ปีมา
  • 00:03:39
    แล้วกี่วันกี่เดือนกี่ปีมาแล้วที่เรานอน
  • 00:03:42
    หลับไม่เห็นมันตายงั้นเรื่องแค่นี้มันจะ
  • 00:03:45
    ไปตายได้ยังไงปัญญาให้มาให้มัน
  • 00:03:49
    ทันส่วนมากแล้วปัญญามันมาไม่ทันในระหว่าง
  • 00:03:54
    จิตมันไอ้ลมมันละเอียดแล้วมันจะขาดไม่มี
  • 00:03:59
    ลมหายใจเพราะมันละเอียดจนกระทั่งว่ามัน
  • 00:04:04
    เป็นอากาศสธาแค่
  • 00:04:07
    นั้นเราก็เลยมองไม่เห็นมองไม่ทันมันหยาก
  • 00:04:11
    มันละมันละเอียดฉะนั้นมันจะละเอียดขนาด
  • 00:04:16
    ไหนก็ตามมันก็คือลมหายใจมันยังมี
  • 00:04:19
    อยู่ไม่ใช่มันหมดไปที่ไหนแล้วก็มันไม่ใช่
  • 00:04:24
    จะเป็นเรื่องเป็นเรื่องตายอันนี้เรื่อง
  • 00:04:26
    การทำสมาธิภาวนาต่างหากพุทธเจ้าก็กำหนดลม
  • 00:04:30
    หายใจนี้แหละก็ไม่เห็นท่านตายเราก็ทันกับ
  • 00:04:35
    เหตุการณ์เท่า
  • 00:04:36
    นั้นฉะนั้นตอนที่ลมมันละเอียดนี่ต้อง
  • 00:04:42
    ระวังปัญญาต้องมาพร้อมสติต้องมาพร้อมถ้า
  • 00:04:47
    ปัญญามาสติมาไม่เป็นไรไม่ต้องไปกลัว
  • 00:04:52
    ตายฉะนั้นพอกลัวตายแล้วบัดนี้จะทำภาวนา
  • 00:04:56
    ไม่ได้เลยพอภาวนาเข้าไปถึงจุดนั้นอีกก็จะ
  • 00:05:00
    สะดุ้งอีกหรือภาวนาไม่เป็นอย่างนั้นอีก
  • 00:05:03
    เลยฉะนั้นการทำสมาธิภาวนาต้องทำความเข้า
  • 00:05:08
    ใจกับตัว
  • 00:05:09
    เองเราศึกษาธรรมะคำสั่งสอนของพพุทธเจ้า
  • 00:05:13
    เราต้องศึกษาทั้ง
  • 00:05:15
    หมดเหมือนกับอาจารย์พูดถึงเรื่องของ
  • 00:05:20
    ช้างคนไปเห็นงวงช้างก็ว่า
  • 00:05:23
    ปิงคนไปเห็นงาช้างก็ว่าเลียวงามอื
  • 00:05:30
    คนไปเห็นเสาไอ้ขามันก็ว่าเหมือนเสา
  • 00:05:35
    บ้านคนไปเห็นข้างฝาไอ้ข้างไอ้สีข้างมันก็
  • 00:05:41
    ว่าเป็นฝาบ้านคนไปเห็นหางมันก็ว่าเป็นไม้
  • 00:05:45
    กวาดไม้กวาดที่เรากวาดไม้กวาดอ่อนอเห็น
  • 00:05:50
    หาง
  • 00:05:51
    มันแล้วตาบอดคำช้างมาทะเลาะกัน่ะบัดนี้
  • 00:05:56
    แต่ละคนก็มาพูดว่า
  • 00:05:59
    เราไม่ได้เห็นตัวช้างเราเห็นแต่ไม้กวาดไี
  • 00:06:03
    คนเห็นขาก็เห็นว่าแต่เสาบ้านกูไม่ได้เห็น
  • 00:06:08
    ช้างฉะนั้นอะไรก็ตามที่มันเกิดขึ้นมาใน
  • 00:06:12
    ระหว่างที่เราปฏิบัติหรือเราทำสมาธิภาวนา
  • 00:06:16
    อยู่นั้นให้เห็นเป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา
  • 00:06:20
    เท่านั้นเห็นว่ามันเป็นทุกข์เมื่อเป็น
  • 00:06:24
    ทุกข์ก็ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนเป็น
  • 00:06:28
    อนัตตาเอาไตรลักษณ์เข้าไปเกี่ยวข้องเอา
  • 00:06:32
    อริยสัจเข้าไปเกี่ยวข้องเราอย่าไปทิ้ง
  • 00:06:36
    อริยสัจเอา
  • 00:06:38
    นั้นอย่าไปทิ้งอริยสัจอย่าไปทิ้ง
  • 00:06:41
    ไตรลักษณ์อะไรมันเกิดขึ้นมาก็
  • 00:06:44
    ต้องน้อมเอาไตรลักษณ์เข้าไปเอาอริยสัจ
  • 00:06:48
    เข้า
  • 00:06:48
    ไปมันเห็นที่เกิดก็ต้องเห็นที่ดับ
  • 00:06:53
    นฉะนั้นมันจะเกิดมามากเท่าไหร่ก็เห็นที่
  • 00:06:57
    ดับมากเท่านั้น
  • 00:07:00
    อะไรก็ตามที่มันเกิดขึ้นมาเราก็เห็นแต่
  • 00:07:02
    ที่มันเกิดกับที่มันดับไม่เห็นมันตั้ง
  • 00:07:05
    อยู่ที่ตรงไหนเลยร่างกายของเรามันไม่มี
  • 00:07:09
    ที่ตั้งกับอารมณ์พวกนั้นพอร่างกายของเรา
  • 00:07:14
    มันสะอาดขึ้นมาแล้วมันตั้งไม่ได้อารมณ์
  • 00:07:17
    พวกนั้นก็มาตั้งไม่ได้มาตั้งไม่ได้มันก็
  • 00:07:20
    ไม่เป็น
  • 00:07:21
    ทุกข์ฉะนั้นวิธีการภาวนาวิธีการ
  • 00:07:26
    ปฏิบัติที่เราจะต้องทำก็เพราะเหตุที่ว่า
  • 00:07:30
    มันจะต้องเดินทางไปเส้นเดียว
  • 00:07:33
    กันก็คือชรา
  • 00:07:36
    คือพยาธิแล้วก็จะมรณะคือตายเหมือนกันอายุ
  • 00:07:43
    สั้นอายุน้อยอายุมากอันนั้นไม่เกี่ยว
  • 00:07:46
    เรื่องคมเป็นคมตายนี่ถือเป็นเรื่องธรรมดา
  • 00:07:49
    ของผู้
  • 00:07:50
    ปฏิบัติเมื่อถึงเวลาแล้วก็คือต้องไปถ้า
  • 00:07:55
    มันถึงเวลาแล้วก็ยับยั้งไม่ได้
  • 00:07:59
    หรือเกิดโลคาพยาธิรุนแรงขึ้นมาก็ต้องไป
  • 00:08:05
    เป็น
  • 00:08:06
    ธรรมดาฉะนั้นความเป็นธรรมดาอันนี้ไม่มี
  • 00:08:10
    ปัญหาแต่ใจเราขาดจากสิ่งต่างๆที่ถูกหุ้ม
  • 00:08:18
    ห่อจิตใจของเราคือทิฐิมานะอาสวกิเลสทั้ง
  • 00:08:22
    หลายมาหุ้มห่อจิตใจของเราไม่
  • 00:08:25
    มีเราอยู่ด้วยความสว่าง
  • 00:08:31
    เราอยู่ด้วยความสว่างเราอยู่ด้วยความ
  • 00:08:35
    สุขอยู่ด้วยความไม่
  • 00:08:38
    มีไม่มีอะไรที่จะมาให้ทำให้เราเดือดร้อน
  • 00:08:42
    จิตใจของเราไม่มีความเดือดร้อนนะเพราะเรา
  • 00:08:46
    อยู่ด้วยความสุขเราอยู่ด้วยปีติอยู่ด้วย
  • 00:08:49
    ความเอิบอิ่มของใจในภาคปฏิบัตินะฉะนั้น
  • 00:08:55
    การไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตามเราจะอยู่
  • 00:08:58
    ในศาลาหรือเราจะออกไปที่กุฏิหรือเราจะไป
  • 00:09:00
    อยู่ในบ้านในเมืองที่ไหนก็ตามในโลก
  • 00:09:04
    นี้เราเป็นผู้มีสติกับปัญญารอบรู้กัน
  • 00:09:12
    อยู่ฉะนั้นวิธีการปฏิบัติเราจะต้องทำความ
  • 00:09:17
    เข้าใจกับผู้
  • 00:09:19
    ปฏิบัติเราเป็นนักบวชเราเป็นผู้
  • 00:09:24
    ปฏิบัติเราทำตัวของเราให้มันเป็นสาวก
  • 00:09:31
    อริยสาวก
  • 00:09:34
    อริยะเราทำตัวของเราให้เป็นอริยะที่ไม่
  • 00:09:38
    ใช่สาวก
  • 00:09:40
    อก็คือเราไม่ได้บวชตามเสด็จพ
  • 00:09:44
    พุทธเจ้าแต่ถ้าเราได้บวช
  • 00:09:48
    หรือนุ่งเหลืองห่มเหลืองหรือนุ่งขาวห่ม
  • 00:09:52
    ขาวอันนั้นถือว่าเราได้บวชเป็นอริยสาวกอ
  • 00:09:57
    ฉะนั้นความเป็นพระสาวกมีอยู่ด้วยกันทั้ง
  • 00:10:02
    หมดควมเป็นพระสงฆ์ก็มีอยู่ด้วยกันทั้ง
  • 00:10:07
    หมดผู้ที่มาเลื่อมใสศรัทธาในพระไตร
  • 00:10:13
    สนคงด
  • 00:10:16
    เว้นสิ่งที่พพุทธเจ้าทรง
  • 00:10:20
    ห้ามปฏิบัติตามสิ่งที่พพุทธเจ้าทรง
  • 00:10:23
    อนุญาตอันนี้ชื่อว่าพระสงฆ์
  • 00:10:27
    นะไม่ได้บอกว่าว่าเป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้
  • 00:10:30
    ชายนะชื่อว่าพระสงฆ์ได้ทั้ง
  • 00:10:33
    หมดจะเป็นสงฆ์แบบไหนมันจะเป็นสงฆ์
  • 00:10:37
    อริยสาวกหรือเป็นสงฆ์ที่ไม่ใช่
  • 00:10:41
    สาวกก็เป็นพระสงฆ์ด้วยกันนั่นฉะนั้นวิธี
  • 00:10:46
    คิดในตำราทางพระพุทธศาสนาเราต้องศึกษาให้
  • 00:10:50
    ท่องแท้ถ้าเราศึกษาไม่ต้องแท้แล้วโอทำไม่
  • 00:10:55
    ได้ไอ้นู่นไอ้นี่ไอ้นี่ไอ้นู่นมีข้อจำกัด
  • 00:10:59
    อะไรต่าง
  • 00:11:03
    ๆรวมไปถึงว่าถ้าได้เป็นพระอริยะแล้วนั่น
  • 00:11:08
    จะมี
  • 00:11:09
    อายุอยู่แค่ 7
  • 00:11:12
    วันแต่แท้ที่จริงน่ะพระอริยะมีตั้งมาก
  • 00:11:19
    มายอย่างอนาถปิณฑิกเศรษฐีนี่ก็เป็นพระ
  • 00:11:25
    อริยะนางวิสาขาเก็เป็นพระอริยนางสุปปวาสา
  • 00:11:30
    กุลธิดานี่ก็เป็นพระ
  • 00:11:35
    อริยะฉะนั้นวิธีคิดวิธีที่จะต้องมาจำกัด
  • 00:11:41
    ตัวเองแล้วไม่ยอม
  • 00:11:44
    เปิดมุมมองของตัวเองให้มันเป็นไปกับ
  • 00:11:48
    มรรคไม่ยอมเปิดมุมมองของตัวเองให้มันเป็น
  • 00:11:51
    ไปกับ
  • 00:11:53
    อริยสัจอันนั้นคือการกำจัด
  • 00:11:59
    พญามารมันมากีดกันไม่ให้เราเป็นไปกับ
  • 00:12:05
    มรรคเราไปเสียท่าพยามารพยามารมันมาอะไรก็
  • 00:12:10
    ตามที่มันจะมากีดกันเราได้ที่จะมาดึงให้
  • 00:12:14
    เราตกอยู่ในอบายภูมิได้พยามานมันเอา
  • 00:12:18
    หมดฉะนั้นวิธีการปฏิบัตินั้นเราจะต้อง
  • 00:12:22
    ศึกษาให้ถ่อง
  • 00:12:25
    แท้คนที่มีสติปัญญาระดับพระอริยะ
  • 00:12:29
    [เพลง]
  • 00:12:31
    มันจะถึงขั้นโง่ที่จะปล่อยให้ตัวเองตาย
  • 00:12:34
    เลยอันนั้นไม่
  • 00:12:38
    ใช่มันก็ต้องมีทางออกของ
  • 00:12:41
    มันไม่ใช่ว่าไม่มีทาง
  • 00:12:45
    ออกเส้นทางมันมีมากมายสำหรับที่จะไปเป็น
  • 00:12:50
    ทางออกของคนมีสติปัญญาไม่น่าจะไปจนตอกถึง
  • 00:12:55
    ขนาดที่
  • 00:12:56
    ว่าจะต้องมาปล่อยให้ตัวเองตายสิ้นซีพไป
  • 00:12:59
    โดยที่เปล่าประโยชน์ไม่ได้ทำประโยชน์อะไร
  • 00:13:02
    เลยอันนั้นไม่
  • 00:13:04
    ใช่มันเป็นหลักการพูดหรือเป็นวิธีการต่าง
  • 00:13:09
    ๆแนวทางการปฏิบัติมีมาก
  • 00:13:13
    มายฉะนั้นวิธีการปฏิบัตินั้นเรา
  • 00:13:19
    อย่าตั้งข้อจำกัดตัวเองเราอย่ากีดกันตัว
  • 00:13:24
    เองจนเกินไปเราต้องเปิดตัวเองออกมา
  • 00:13:29
    รับรู้เรื่องภายนอกเขาบ้างภายในบ้างถ้า
  • 00:13:34
    เราไปรับรู้ตั้งแต่เรื่องภายในอย่างเดียว
  • 00:13:36
    โดยที่ไม่รับรู้เรื่องภายนอกเลยก็ไม่ใช่
  • 00:13:39
    เราจะรับรู้เรื่องภายนอกอย่างเดียวไม่รับ
  • 00:13:42
    รู้เรื่องภายในเลยก็ไม่
  • 00:13:44
    ใช่ไม่ใช่คำว่าโลกวิทูนะถ้าคำว่าโลกวิทู
  • 00:13:50
    คือรู้แจ้งในสรรพสิ่งทั้ง
  • 00:13:53
    หลายเราจะรู้ส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้ไม่ต้อง
  • 00:13:58
    รู้ทั้งหมดก็ได้เราจะรู้ในบางอย่างที่เรา
  • 00:14:03
    ควรจะรู้จะเห็นก็ได้ไม่ได้มีปัญหาเลย
  • 00:14:08
    ฉะนั้นการปฏิบัติในส่วนที่จะเรื่องใหญ่
  • 00:14:12
    ที่สุดก็
  • 00:14:14
    คือเมื่อถึงเวลามันมีเวทนากล้าขึ้นมาี่
  • 00:14:19
    เราจะทำยังไงกับตัวของเราเราจะมีวิธีการ
  • 00:14:23
    หลบหลีกเวทนาพวกนี้ได้ยังไง
  • 00:14:29
    เวทนาจากทางกายหรือเวทนาจากทาง
  • 00:14:34
    ใจร่างกายมันกระ
  • 00:14:37
    [เพลง]
  • 00:14:39
    เพื่อมมันไม่เหมือนกับตอนที่เกิดมาใหม่ๆ
  • 00:14:43
    นะตอนเกิดมาใหม่ๆอวัยวะมันยังไม่
  • 00:14:49
    สมบูรณ์ความรู้สึกมันยังไม่สมบูรณ์เต็ม
  • 00:14:52
    ที่ถึงแม้อย่างนั้นมันก็ยังร้องไห้แวว
  • 00:14:56
    นั่นแต่บัดนี้ตอนตอนที่เราจะต้องจากโลก
  • 00:15:00
    นี้ไปบัดนี้อวัยวะมันสมบูรณ์หมดทุกอย่าง
  • 00:15:04
    ฉะนั้นเวทนามันต้องคนละอย่าง
  • 00:15:07
    กันกับตอนที่เราเกิด
  • 00:15:10
    อในเมื่อเวทนามันคนละอย่างกันนี่เราจะทำ
  • 00:15:13
    ยังไงกับตัวของเราเราจะข้ามเวทนาอันนี้
  • 00:15:17
    ด้วยรูปแบบ
  • 00:15:20
    ไหนมันจะต้องใช้สติปัญญา
  • 00:15:25
    อย่างเฉียบแหลม
  • 00:15:29
    มันจะต้องใช้สติปัญญาอันคม
  • 00:15:33
    กล้าถึงจะสามารถที่จะข้ามเวทนาพวกนี้ไป
  • 00:15:37
    ได้ถ้าเราปล่อยตัวเราให้มันไปตามลมพัดลม
  • 00:15:41
    เพเฉย
  • 00:15:44
    ๆมันก็ไม่ได้อะไรแล้วก็ไปนู่นไปนี่ไปนี่
  • 00:15:49
    ไปนู่นอยากมีแต่ความอยากเป็นกำลังอยู่
  • 00:15:53
    ตลอด
  • 00:15:54
    เวลาสุดท้ายมาก็หมดเวลา
  • 00:15:59
    พอหมดเวลาแล้วบัดนี้ถึงจากมาได้เวลาบัด
  • 00:16:02
    นี้มันมีหรือมันหมดไปแล้ว
  • 00:16:07
    เวลาเวลาที่มันมีอยู่ก็คือลมหายใจที่ยัง
  • 00:16:10
    มีอยู่พอลมหายใจหมดไปแล้วก็คือหมด
  • 00:16:15
    เวลามันไม่ได้บอกอายุนะบัลมหายใจมัน
  • 00:16:20
    หมดมันจะหมดด้วยรูปแบบไหนบัต
  • 00:16:24
    นะด้วยโลคาพยาธิหรือด้วยอายุไขยหรือหือ
  • 00:16:29
    ด้วยสิ้นกรรมหรือสิ้นทั้งกรรมทั้งอายุขัย
  • 00:16:31
    หรือ
  • 00:16:36
    อุปฆาตกรรม
  • 00:16:38
    แรงนั่นพอรู้ข่าวปุ๊บตาย
  • 00:16:43
    เลยรู้ข่าโลคาพยาธิมาตายแล้ว
  • 00:16:48
    นั่นฉะนั้นถึงว่าผู้ปฏิบัติในฐานะที่เรา
  • 00:16:53
    เป็นบริษัท
  • 00:16:56
    4 เราจะต้องพร้อมอยู่ตลอดเวลาในการ
  • 00:17:01
    ปฏิบัติพร้อมด้วยกายด้วยวาจาด้วยใจพร้อม
  • 00:17:06
    ด้วยสติปัญญาอันเฉียบแหลม
  • 00:17:09
    น่ะถ้าหากเราไม่พร้อมด้วยสติปัญญาอัน
  • 00:17:12
    เฉียบแหลมแล้วบัดนี้พอถึงเวลานั้นมาแล้ว
  • 00:17:18
    บัดเรามีการฝึกซ้อมตัวเองหรือยังว่าเราจะ
  • 00:17:21
    ไปหลบภัยอยู่ที่ไหนเมื่อเกิดมรสุมใหญ่
  • 00:17:26
    ขึ้นมา
  • 00:17:29
    เราจะไปหลบอยู่ที่ไหนได้เหมือนสถานที่หลบ
  • 00:17:34
    มันก็มีอยู่ที่อัปปนาสมาธิพอหลบได้
  • 00:17:38
    บ้างแต่ไม่ขาดเพราะอยู่ไม่ได้
  • 00:17:43
    ตามต้องการแต่ถ้าเราไปหลบอยู่ที่สัญญา
  • 00:17:47
    เวทยิตนิโรธ
  • 00:17:50
    มันถึงจะข้ามได้โดยเด็ด
  • 00:17:54
    ขาดฉะนั้นมันจะต้องทำงานของเราเพิ่มขึ้น
  • 00:17:58
    ไปอีกอีกเพิ่มขึ้นไปอีกเพิ่มขึ้นไป
  • 00:18:01
    อีกจากที่เราทำอยู่แล้วนี่เราจะต้องทำ
  • 00:18:04
    เพิ่มเข้าไปอีกให้มันมากขึ้นไปอีกนั่น
  • 00:18:07
    วิธีการทำงานของผู้
  • 00:18:10
    ปฏิบัติไม่ใช่ว่าจะลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ
  • 00:18:16
    แต่ก่อนเคยเดินจมกรม 2-3 ชั่วโมงมาตอน
  • 00:18:19
    หลังมาเดินแค่ 10 นาทีหรือไม่ได้เดิน
  • 00:18:23
    เลยนั่งสมาธิก็เหมือนกันไม่ได้นั่งเลยกา
  • 00:18:28
    พะก็ไม่ได้กราบเลยพอกราบครั้งเดียวล่ะทำ
  • 00:18:31
    มือแบบๆๆๆแล้วก็ไปล้มลงไปเลยนั่นถ้าอย่าง
  • 00:18:35
    งั้นน่ะมันเจริญขึ้นหรือเจริญลงบก็ต้องทำ
  • 00:18:39
    ตัวเอง
  • 00:18:40
    ดูมันเจริญไปหาความเสื่อมหรือมันเจริญ
  • 00:18:46
    ขึ้นไปเพื่อความเจริญนั่นวิธี
  • 00:18:50
    คิดฉะนั้นเราจะต้องมีวิธีคิดในภาค
  • 00:18:57
    ปฏิบัติคำว่าผู้มีสติผู้มีปัญญาอันเลิศ
  • 00:19:03
    นั่นมันแตกต่างกันกับผู้ด้อยด้วย
  • 00:19:08
    ปัญญาผู้ถูกหุ้มห่อด้วยทิฐิมานะอาสวกิเลส
  • 00:19:13
    นั่นมันต่าง
  • 00:19:15
    กันฉะนั้นการปฏิบัติหรือการทำความเข้าใจ
  • 00:19:19
    ไม่ว่าเราจะอยู่ในวัดนอกวัดหรืออยู่ที่
  • 00:19:23
    ไหนก็ตามใน
  • 00:19:25
    โลกถ้าสภาพจิตใจของเราเป็นไปกับธคือคำ
  • 00:19:29
    สั่งสอนของพระพุทธเจ้า
  • 00:19:32
    แล้วมันจะไม่มีปัญหาเลยไม่ได้มีปัญหาใน
  • 00:19:36
    การเข้ามาและออก
  • 00:19:38
    ไปจะอยู่ที่ไหนก็ได้ในการทำความ
  • 00:19:44
    เพียรเพราะเวลาเป็นของเราโดยแท้พอกลางคืน
  • 00:19:49
    มาแล้วนี่เวลาเป็นของเราโดย
  • 00:19:53
    แท้เมื่อเราเข้าห้องเราแล้วเราก็เป็นเวลา
  • 00:19:56
    เป็นของเราแล้ว
  • 00:19:58
    เราจะทำอะไรเราจะเดินหรือเราจะยืนเราจะ
  • 00:20:01
    นั่งหรือเราจะ
  • 00:20:03
    นอนในการทำความเพียรธได้ทุก
  • 00:20:07
    อริยบทเดินก็ได้ยืนก็ได้นั่งก็ได้นอนก็
  • 00:20:12
    ได้ไม่ให้มันเป็นอุปสรรคกับการ
  • 00:20:18
    ปฏิบัติฉะนั้นวิธีการปฏิบัติทุกวันนี้มี
  • 00:20:22
    แต่
  • 00:20:23
    อุปสรรคหาว่ามันไม่สงบหาว่ามันอย่างนู้น
  • 00:20:27
    อย่างนี้สารพัดที่จะหาแต่แท้ที่จริงข้อหา
  • 00:20:32
    เหล่านั้น
  • 00:20:33
    เพื่อลดความพากเพียรของตัวเองลง
  • 00:20:38
    อฉะนั้นไม่ได้ข้อหาต่างๆพวกนั้นเพื่อจะลด
  • 00:20:43
    ควมเพียรถือว่ามันเอ้ยวันนี้มันแดดวันนี้
  • 00:20:48
    มันร้อนวันนี้มันหนาวเอาไว้ก่อนนั่นเห็น
  • 00:20:53
    มั้ยเดี๋ยวถ้างั้นก็ตอนเช้าตื่นขึ้นมา
  • 00:20:57
    แล้วถึงมาทำตื่นขึ้นมาพระอาทิตย์ขึ้นมาก็
  • 00:21:00
    ไม่ได้สน
  • 00:21:02
    ใจฉะนั้นการปฏิบัติหรือการทำความเข้าใจ
  • 00:21:06
    พวกนี้จะ
  • 00:21:09
    ต้องมีความถ่องแท้ในตัว
  • 00:21:15
    เองมันมี
  • 00:21:18
    ตัวที่หุ้มห่อจิตใจของ
  • 00:21:25
    เราทิฐิมานะ
  • 00:21:29
    อาสวะกิเลสน้อย
  • 00:21:32
    ใหญ่มันหุ้มห่อจิตใจเราไว้ไม่ให้เห็น
  • 00:21:40
    ธรรมเราไม่
  • 00:21:44
    ยอมที่จะสลัดของเหล่านี้ออกไปจากใจของ
  • 00:21:54
    เราฉะนั้นการทำความเพียรก็เลยลำบาก
  • 00:22:02
    การที่เราจะรู้จะเห็นตามความเป็นจริงก็
  • 00:22:05
    รู้ไม่ได้เพะมันถูกปิดกั้นไว้ทั้ง
  • 00:22:11
    หมดมันมีอำนาจมาช้า
  • 00:22:13
    [เพลง]
  • 00:22:19
    นานมันเคยมีอำนาจในหัวใจเรามาช้า
  • 00:22:25
    นานอันนี้ก็นับว่าบุญอันหนึ่งที่เรา
  • 00:22:30
    หลุดออกมาได้ในบางอย่างที่มาวัดได้หรือมา
  • 00:22:36
    ปฏิบัติได้ก็นับว่าเป็นบุญอัน
  • 00:22:41
    หนึ่งที่เราตั้งใจที่จะนำพาตัวเองให้พ้น
  • 00:22:48
    วัฏฏะแต่การพ้นวัฏฏะมันมีอยู่หลายส่วน
  • 00:22:53
    ด้วย
  • 00:22:56
    กันคนแบบมีแรงเหวี่ยงหรือพ้นแบบเรียบง่าย
  • 00:23:06
    สบายมันมีพ้นแบบมีแรงเหวี่ยงก็
  • 00:23:12
    มีเพราะตอนที่จิตมันขาดจากสัญญาภาย
  • 00:23:20
    นอกมันหลุดเข้าไปอยู่ในสัญญาภายในมันจะมี
  • 00:23:24
    แรงเหวี่ยง
  • 00:23:30
    ฉะนั้นต้องอาศัยสติกับปัญญานั้นให้รอบรู้
  • 00:23:34
    กัน
  • 00:23:36
    อยู่เผลอสติไม่
  • 00:23:42
    ได้การที่มันมีแรง
  • 00:23:48
    เหวี่ยงฉะนั้นคนส่วน
  • 00:23:53
    หนึ่งไม่กล้าที่จะเสียสละลงไปก็กลัวแรง
  • 00:23:56
    เหวี่ยงอันนี้
  • 00:24:02
    คิดว่ามันจะเป็นอย่างนู้นเป็นอย่าง
  • 00:24:06
    นี้กลัวเสียก่อนยังไม่ได้ถึงที่
  • 00:24:11
    หมายเรากลัวตั้งแต่มันยังไม่มี
  • 00:24:16
    อะไรเพราะมันถูกหุ้มห่อไว้หมด
  • 00:24:19
    [เพลง]
  • 00:24:21
    แล้วฉะนั้นการ
  • 00:24:26
    ภาวนามันก็เลยเข้าแต่ได้
  • 00:24:30
    ยากทั้งๆที่เห็นอยู่แก่
  • 00:24:36
    ใจร่างกายของเรามันคอยพยศกับเราอยู่ตลอด
  • 00:24:41
    [เพลง]
  • 00:24:43
    เวลาเดี๋ยวก็โลคาพยาธิไอ้นู่นไอ้นี่มา
  • 00:24:47
    เยี่ยมอยู่ตลอด
  • 00:24:48
    [เพลง]
  • 00:24:51
    เวลาถูกกิ่นแปลกปลอมหน่อยก็จาม
  • 00:24:56
    นั่นถูกกิ่น
  • 00:25:01
    ใบไม้ใบหญ้าจามแล้วนั่นเห็นมมันมัน
  • 00:25:07
    พยศแล้วเรายังจะทนุถนอมมันไปถึงไหนวัน
  • 00:25:12
    นี้ถึงแม้เราทนุถนอมยังไงมันก็เป็นอยู่
  • 00:25:16
    อย่าง
  • 00:25:17
    นี้ร่างกายอัน
  • 00:25:21
    นี้เพราะร่างกายนี้มันไม่ได้อยู่ในบังคับ
  • 00:25:24
    บัญชาของ
  • 00:25:26
    ใขมันอยู่ตามธรรมะโดย
  • 00:25:31
    แท้ในเมื่อมันอยู่ตามธรรมะโดยแท้น่ะเรามา
  • 00:25:35
    ทำความเข้าใจกับธรรมะอันนี้ได้
  • 00:25:38
    มั้ยไม่
  • 00:25:43
    ได้เพราะถ้าหากเราจะกลับมาดูอยู่กับธรรมะ
  • 00:25:47
    โดยแท้นี่มันไม่
  • 00:25:50
    ได้เพราะมันถูกหุ้มห่ออยู่หมด
  • 00:25:57
    แล้วในเมื่อมันถูกหุ้มห่อจิตใจเราไว้หมด
  • 00:26:01
    แล้วบัดนี้นั่น
  • 00:26:03
    ปัญหาฉะนั้นการทำความเพียรก็
  • 00:26:08
    เลยไม่
  • 00:26:10
    เห็นทั้งๆที่ว่าทุกข์มันอยู่เต็มหัวอกมัน
  • 00:26:16
    ก็ยังบอกว่าไม่
  • 00:26:17
    ทุกข์มันจะบอกว่าไม่เห็นมันยังบอกว่าไม่
  • 00:26:23
    รู้อีก
  • 00:26:28
    ดูที่วิธีการคิดของมันไอ้ตัว
  • 00:26:33
    กิเลสตัวทิฐิมานะอาสวะกิเลสทั้งหลายมันมี
  • 00:26:37
    วิธีคิดของ
  • 00:26:39
    มันมันเสี้ยมสอนเราอย่างแนบ
  • 00:26:46
    เนียนไม่เหมือนกับธรรมะ
  • 00:26:49
    นะธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามาแบบ
  • 00:26:55
    กระชากแต่กิเลสมันมาอย่างแนบ
  • 00:27:00
    เนียนมาอย่างสุขขุมลุ่ม
  • 00:27:05
    ลึกแต่ธรรมะประกาศก้องอยู่ตลอด
  • 00:27:11
    เวลาเราไปเชื่อธรรมะที่ไหนเราไปเชื่อ
  • 00:27:14
    กิเลสมากกว่าเชื่อ
  • 00:27:16
    ธรรมะวิธีการคิดของ
  • 00:27:21
    เราั้นถึง
  • 00:27:27
    ว่ามันจะขาด
  • 00:27:30
    ทุนก็เลยได้ตำราขึ้นมาว่ากบเฝ้ากอบัวกับ
  • 00:27:36
    ทัพพีเฝ้าหม้อ
  • 00:27:41
    แกงมันเลยได้ตำราอันนี้ขึ้นมาโบราณเเลย
  • 00:27:46
    ตั้งชื่ออันนี้ขึ้นมาอันนี้เป็นชื่อของ
  • 00:27:49
    โบราณเพูดกันมาช้านานแล้ว
  • 00:27:55
    นะ
  • 00:27:57
    ว่าเราอย่าเป็นกบเฝ้ากอบัวให้เป็น
  • 00:28:02
    ผึ้งมาเอา
  • 00:28:05
    เกสรแล้วก็จาก
  • 00:28:07
    [เพลง]
  • 00:28:09
    ไปหรือเป็นทัพพีเฝ้าหม้อแกง
  • 00:28:15
    นฉนั้นวิธีการคิดในภาคปฏิบัติเี่มันเป็น
  • 00:28:20
    สิ่งที่คำพังเพลยของคน
  • 00:28:25
    โบราณเขาผูกคำขึ้นมาสำหรับที่จะเสี้ยมสอน
  • 00:28:30
    ลูก
  • 00:28:31
    หลานให้มาเข้าใจในธรรมะคำสั่งสอนของพ
  • 00:28:36
    พุทธเจ้าเขถึงได้ผูกคำพังเพยขึ้นว่าอย่า
  • 00:28:41
    เป็นทัพพีเฝ้าหม้อ
  • 00:28:43
    แกงหรืออย่าเป็นกบเฝ้ากอบัวให้เป็น
  • 00:28:48
    ผึ้งมาเอาเกสรดอกไม้มาเอาน้ำหวานดอกบัวนะ
  • 00:28:59
    ฉะนั้นการ
  • 00:29:02
    คิดกับคำ
  • 00:29:05
    [เพลง]
  • 00:29:09
    โบราณวิธีคิดวิธีการ
  • 00:29:13
    ปฏิบัติในภาค
  • 00:29:16
    ปฏิบัติจะต้องกลับหลังมือเป็นหน้า
  • 00:29:22
    มือกับหน้ามือเป็นหลังมือ
  • 00:29:28
    ในภาคปฏิบัติมันถึงจะหลุดจากสังสารวัฏ
  • 00:29:32
    ของทิฐิมานะอาสวกิเลส
  • 00:29:37
    ได้จิตใจของเราจะต้องเด็ด
  • 00:29:41
    ขาดอะไรจะเกิดก็ต้องให้มันเกิดอะไรจะตั้ง
  • 00:29:44
    อยู่ก็ให้มันตั้งอยู่อะไรจะดับไปก็ให้มัน
  • 00:29:47
    ดับไปเราเป็นผู้เห็นเราเป็นผู้รู้เท่า
  • 00:29:51
    นั้นนั่นในภาค
  • 00:29:54
    ปฏิบัติเราไม่ใช่เป็นคนเกิดคนดับ
  • 00:29:59
    เราเป็นแค่ผู้
  • 00:30:02
    รู้ว่าไอ้นี่มันเกิดขึ้นมาไอ้นี่มันตั้ง
  • 00:30:06
    อยู่ไอ้นี่มันดับ
  • 00:30:08
    ไปมันดับไปที่ไหนมันก็ดับไปที่มันรู้นี่
  • 00:30:12
    มันรู้อยู่ที่ไหนรู้อยู่ที่ใจแล้วก็ดับ
  • 00:30:14
    มันก็ดับไปที่ใจของเรา
  • 00:30:18
    เี่มันเกิดมาก็เกิดขึ้นมาที่ใจของเรามัน
  • 00:30:23
    หลงก็หลงอยู่ที่ใจของ
  • 00:30:25
    เราเราไม่ได้ไปหลงอยู่ที่ใจคน
  • 00:30:34
    อื่นฉะนั้นการปฏิบัติการทำความเข้าใจกับ
  • 00:30:40
    ธรรมะคำสั่งสอนของพระ
  • 00:30:47
    พุทธเจ้ามัน
  • 00:30:49
    ไม่ง่ายแล้วก็มันก็ไม่ยากจนเกินไปสำหรับ
  • 00:30:53
    คนมีสติปัญญา
  • 00:30:59
    แต่มีสติปัญญาเสียว
  • 00:31:04
    เปล่ามีปัญญาสติมีสติปัญญาเสียเปล่าโดย
  • 00:31:09
    ที่ไม่ได้มาใคร่วญไต่ตองอะไร
  • 00:31:13
    เลยว่าไปตามสติปัญญาของพญามารซะ
  • 00:31:19
    อีกการที่เราจะหลุดจากบ่วงของมารไม่ง่าย
  • 00:31:24
    อย่างที่คิด
  • 00:31:29
    เราถึงจะหลุดของบวกของมารออกไปได้
  • 00:31:34
    นะเราจะต้องเป็นคนเด็ด
  • 00:31:40
    ขาดหักแต่ไม่
  • 00:31:47
    งออะไรก็ตามหักก็ให้มันหักไปเลยไม่ต้อง
  • 00:31:52
    งอถ้าเราจับเข้าไปแล้วถ้ามือเราไม่ขาดก็
  • 00:31:56
    ของนั้นมันต้องขาดติดมือเรามา
  • 00:32:01
    อถ้าจิตใจมันห้าวหาญขนาดนั้นได้ไอ้ทิฐิ
  • 00:32:08
    มานะอาสวกิเลสมันไม่มาอยู่หรอกมันไป
  • 00:32:16
    แล้วฉะนั้นการพาก
  • 00:32:19
    ปฏิบัติการทำความเข้า
  • 00:32:22
    ใจเราต้องทบทวนดูหลายๆอย่าง
  • 00:32:31
    เราไม่ต้องไปกลัวว่ามันขาดแล้วมันจะมีแรง
  • 00:32:34
    เหวี่ยงหรือมีอะไรก็ตามเราอย่าไปสน
  • 00:32:38
    ใจถ้าเราอยู่ในสติปัญญาศรัทธาความเพียร
  • 00:32:42
    ของเราแล้วนั่นมันไม่ไป
  • 00:32:44
    ไหนมันจะเหวี่ยงไปไหนก็ให้มันเหวี่ยง
  • 00:32:48
    ไปมันจะหลุดออกไปนอกโลกก็ให้มันหลุดออก
  • 00:32:53
    ไปเพราะเรารู้อยู่แค่นั้นเองเราใช้ความ
  • 00:32:57
    รู้อย่าง
  • 00:32:58
    เดียวเรียกว่าสติกับปัญญารอบรู้กันอยู่นะ
  • 00:33:03
    มันจะเกิดอะไรขึ้นมาในระหว่างที่เรา
  • 00:33:06
    ปฏิบัติเราก็ไม่ได้ลงไปสน
  • 00:33:08
    ใจเพราะเราตั้งสติกับปัญญาของเราให้มัน
  • 00:33:13
    เด่นไว้เด่นไว้เด่นไว้แค่
  • 00:33:16
    นั้นอะไรเกิดขึ้นอะไรตั้งอยู่เราก็ต้อง
  • 00:33:20
    รู้ไปแค่นั้น
  • 00:33:23
    นะถึงไหนถึงกันไปไหนไปกันตายไหนตาย
  • 00:33:29
    [เพลง]
  • 00:33:30
    กันมันถึงจะ
  • 00:33:33
    [เพลง]
  • 00:33:41
    ขาดเราพยายามรักษาความดีที่มี
  • 00:33:48
    อยู่เราจะรักษายัง
  • 00:33:52
    ไงเราจะดูแลตัวเองยังไงเราจะปรับปรุงตัว
  • 00:33:58
    ของเรายัง
  • 00:34:02
    ไงเรารบเราต้องได้ชัยชนะมีอยู่แค่
  • 00:34:08
    นั้นแพ้ก็เพื่อ
  • 00:34:13
    ชนะเราจะลบแพ้เราก็ต้องเพื่อความชัยชนะใน
  • 00:34:17
    ภายหลังถ้าเราได้ชัยชนะในครั้งแรกั้งหลัง
  • 00:34:22
    มาเราก็ได้ชัยชนะไปนี่คือการตั้งสติ
  • 00:34:28
    ควบคุมตัวเอง
  • 00:34:33
    อยู่อะไรมันเกิดก็รู้อะไรมันไม่มีก็
  • 00:34:37
    รู้สุดท้ายมาอันนี้ถ้าทำแบบนี้จะไม่มีแรง
  • 00:34:45
    เหวี่ยงทำไปทำไปทิ้งไปทิ้งไปทิ้งไปทิ้งไป
  • 00:34:50
    รู้แล้วก็ทิ้งรู้แล้วก็ทิ้งอันนี้จะไม่มี
  • 00:34:54
    แรงแรงเหวี่ยง
  • 00:34:59
    เพราะปัญญามันสมบูรณ์อยู่ตลอด
  • 00:35:02
    เวลาไอ้ที่มีแรงเหวี่ยงเพราะเหตุที่ว่าส
  • 00:35:07
    ปัญญามันไม่สมบูรณ์ในช่วง
  • 00:35:09
    นั้นมันก็แต่ปัญญามันเสียบแหลมจริง
  • 00:35:14
    อยู่แต่มันไม่สมบูรณ์ตลอดไปแต่ตอนที่เรา
  • 00:35:19
    ทำไปทิ้งไปทำไปทิ้งไปเหมือนกับว่าเราเดิน
  • 00:35:22
    จงกรมชั่วโมงหนึ่งไม่มีอะไรก็ที่มันไม่มี
  • 00:35:26
    นั่นแหละคือมันมี
  • 00:35:30
    ที่เรานึกพุทโธพุทโธน่ะมันก็มีอยู่แล้วน
  • 00:35:33
    นั่นน่ะที่ว่าเราไม่มีเรารู้ว่ามันไม่มี
  • 00:35:35
    ว่าพุทโธนั่นยังไงเรารู้
  • 00:35:40
    อยู่นี่คือปัญญามันทันมั้ยถ้าปัญญาไม่ทัน
  • 00:35:46
    มันก็เหมือนกับว่าเราทำแล้วไม่ได้
  • 00:35:49
    อะไรควมเข้าใจแต่จริงๆเราได้
  • 00:35:57
    เราได้อะไรเราได้เห็นของที่มันไม่มีกับ
  • 00:36:01
    ของที่มันมีมันแตกต่างกันในระหว่างที่มัน
  • 00:36:06
    มีไอ้นู่นมีไอ้นี่เกับระหว่างที่มันไม่มี
  • 00:36:09
    อะไรนี่มันจะเป็นอีกอย่างหนึ่ง
  • 00:36:13
    ฉะนั้นมันจะตรงกันข้ามตลอดเวลากับความรู้
  • 00:36:16
    สึกของ
  • 00:36:18
    เราเราว่าเราไม่ได้เราไม่เห็นเราไม่
  • 00:36:23
    รู้ก็คือเรารู้
  • 00:36:27
    เรารู้อะไรเรารู้ว่าเรามีสติแต่เราบอกไม่
  • 00:36:31
    ว่าเราไม่
  • 00:36:34
    รู้เรารู้ว่าไม่มีอะไร
  • 00:36:38
    เกิดไม่เห็นได้อะไรในการทำสมาธิ
  • 00:36:44
    ภาวนาก็เราได้ทำนัยังไงเราได้เห็นยังไง
  • 00:36:48
    ว่ามันไม่ได้อันนั้นคือประเสริฐสุดแล้ว
  • 00:36:52
    เห็นว่ามันไม่ได้
  • 00:36:54
    อะไรเพราะจริงๆแล้วมันคือมันไม่มีอะไรสัก
  • 00:36:59
    อย่างใดอย่าง
  • 00:37:00
    หนึ่งที่จะยึดมาเป็นสมบัติของเราโดยแท้
  • 00:37:04
    มันไม่มีเพราะความ
  • 00:37:08
    รู้เพราะมันมีแต่ความรู้อัน
  • 00:37:12
    เดียวจริงๆแล้วถ้าหากเรารักษาแต่ความรู้
  • 00:37:15
    อันเดียวเท่า
  • 00:37:18
    นั้นอะไรเกิดขึ้นเราก็รู้อยู่อะไรตั้ง
  • 00:37:21
    อยู่เราก็รู้อยู่อะไรดับไปเราก็รู้อยู่
  • 00:37:24
    แล้วเราไม่ได้เป็นคนเกิดแล้วเราไม่ได้
  • 00:37:26
    เป็นคนดับ
  • 00:37:28
    เราเป็นแค่ผู้รู้เฉยๆมันแตกต่างกันในการ
  • 00:37:34
    ทำสมาธิภาวนานี่คนมันหลงในอารมณ์ตัว
  • 00:37:38
    เองพอมันเข้าไปหลงในอารมณ์ตัวเองแล้วบัด
  • 00:37:42
    นี้ก็เลยว่าเราเป็นผู้ได้เราเป็นผู้รู้
  • 00:37:46
    เราเป็นผู้
  • 00:37:48
    เห็นทั้งๆที่เราอ่านจากตำรับตำรามาต่าง
  • 00:37:51
    หากตำรับตำรานั้นก็มาจากความคิดหรือจาก
  • 00:37:54
    สังขารของคนอื่นทั้งนั้นนะ
  • 00:37:58
    แต่มันเคยไม่เคยเกิดขึ้นมาในสังขารของเรา
  • 00:38:01
    ในตัวของเราเราไม่
  • 00:38:04
    รู้เราก็เลยอยู่ด้วยความไม่
  • 00:38:09
    รู้คือไม่รู้นั่นคือเราหลงในความรู้ของ
  • 00:38:13
    เรา
  • 00:38:19
    [เพลง]
  • 00:38:26
    น y
  • 00:38:29
    [เพลง]
Tags
  • ธรรมะ
  • สมาธิ
  • สติปัญญา
  • ไตรลักษณ์
  • ทิฐิมานะ
  • ปัญญา
  • อริยมรรค
  • ปล่อยวาง
  • หลวงปู่สาคร
  • การปฏิบัติธรรม